ศูนย์ดิจิทัลชุมชนบ้านวัดคู



ถิ่นวีรชนคนกล้า คู่หล้าพระนอน นามกระฉ่อนช่อนแม่ลา เทศกาลกินปลาประจำปี



เมืองสิงห์บุรีเป็นเมืองเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยโบราณ มีโบราณสถาน มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อนุสาวรีย์วีรชนหมู่บ้านบางระจัน ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มและพื้นที่ลูกคลื่นลอนตื้น ซึ่งเกิดจากการทับถมของตะกอนริมแม่น้ำ มีน้ำแม่ 3 สายไหลผ่าน ได้แก่แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และแม่น้ำลพบุรี ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  วัดสำคัญของจังหวัด ได้แก่ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดสิงห์บุรี ภายในวัดมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร เราสามารถเดินเลือกซื้อสินค้าขึ้นชื่อที่น่าสนใจของจังหวัดสิงห์บุรีมากมายได้ที่ “ตลาดต้องชม” ซึ่งเป็นตลาดท้องถิ่น มีสินค้าทางการเกษตรและอาหารไทยจากคนท้องถิ่นนำมาขาย มากมายหลายอย่าง ดังคำว่า "ตลาดต้องชม ขนมมากมาย หลากหลายพืชผัก"  และที่นี่ ปลาช่อนแดดเดียว เป็นของฝากยอดนิยมของจังหวัดสิงห์บุรี ที่ผู้ผ่านไปมามักจะซื้อกลับไปฝากคนที่ บ้านเป็นประจำ โดยปลาช่อนแดดเดียวของที่นี่นั้นจะใช้ เนื้อปลาช่อนแม่ลามาเป็นวัตถุดิบ ปลาช่อนแม่ลา เป็นพันธ์ปลาช่อนท้องถิ่น ที่เติบโตในบริเวณแม่น้ำแม่ลา จะมีความแตกต่างไปจาก ปลาช่อนธรรมดาทั่ว ๆ ไป โดยมีลักษณะเนื้อปลานุ่ม ฟู อร่อย และเมื่อนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ ปลาช่อนแดดเดียว จึงทำให้มีรสชาด ความอร่อยแตกต่างจากท้องที่อื่น


ศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนบ้านวัดคู ตั้งอยู่ที่ กศน. ตำบลบ้านแป้ง โดยมีจุดมุ่งหมายที่ต้องการลดช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลของคนในชุมชนและส่งเสริมความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับคนในชุมชนโดยไม่แบ่งเพศวัย เพื่อให้คนในชุมชนสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย  โดยมีคุณปณิชา วัฒนาเรืองเดช ผู้ดูแลศูนย์ ร่วมกับ คุณสิริวงศ์ ชาญชัย ผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์กับคนในชุมชนให้มาศึกษาเรียนรู้ ความรู้เบื้องต้นทางคอมพิวเตอร์ การใช้งานอินเทอร์เน็ต  ตลอดจนการสร้างร้านการค้าออนไลน์ให้แก่กลุ่มอาชีพในชุมชนและบุคคลที่สนใจ เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการขายสินค้าให้ได้มากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกับสินค้า SME ด้วย จากที่แต่เดิมทางกลุ่มผู้ขายสินค้าได้ผลิตสินค้าขึ้นมา ประกอบกับไม่สามารถขยายฐานของผู้บริโภคออกไปได้ โดยสินค้าที่ผลิตมา ส่วนใหญ่จะขายกันเองในชุมชน  แต่หลังจากที่ได้มาเรียนหลักสูตรการตลาดออนไลน์ที่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ก็สามารถนำความรู้ที่ได้เรียนไปแก้ไขปัญหาเรื่องการหาช่องทางการขายสินค้าของชุมชนได้ ด้วยการทำเฟซบุ๊กเพจขายสินค้า ทำให้สินค้าของตนสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้จำนวนมากขึ้นทำให้ สินค้าขายได้มากขึนไปด้วย

คุณสมพิศ บัวงาม เจ้าของผลิตภัณฑ์ปลาแดดเดียว กลุ่มสตรีถนอมอาหารจากปลาบ้านตราชู จากเดิมที่เคยขายแค่หน้าร้านอย่างเดียว หลังจากได้เรียนรู้วิธีการสร้างร้านค้าออนไลน์จากศูนย์ดิจิทัลชุมชน ก็มามาปรับใช้ เพื่อเปิดช่องทางติดต่อลูกค้าโดยการเปิด Facebook Page ชื่อ “บัวงาม ปลาแดดเดียว” และ ทาง LINE 0892425423 ทำให้ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้สะดวกยิ่งขึ้น สามารถเพิ่มรายได้มากขึ้นกว่าจากเดิมเป็นอย่างมาก

นอกจากผลิตภัณฑ์ปลาช่อนแดดเดียวที่ได้นำความรู้ที่ได้จากศูนย์ดิจิทัลชุมชนมาปรับใช้แล้ว ก็ยังมีผลิตภัณฑ์หมี่กรอบสมุนไพร ที่นอกจากทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ คุณประภาพร หว่างแทน เจ้าของผลิตภัณฑ์ต้นกล้าหมี่กรอบ ยังได้นำความรู้ที่ได้จากการอินเทอร์เน็ตมาพัฒนาสินค้าให้เกิดความแตกต่าง จากหมี่กรอบเดิม ๆ ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์หมี่กรอบสมุนไพร ข้าวเม่าปรุงรส กระยาสาทร ท้องม้วน ข้าวเกรียบ โดยในปัจจุบันได้ลูกชายที่ได้ไปเรียนความรู้ด้านออนไลน์จาก “ศูนย์ดิจิทัลชุมชน บ้านวัดคู” มาเปิดช่องทางติดต่อลูกค้า โดยการเปิด Facebook Page ชื่อ “ต้นกล้าหมี่กรอบ” และทาง LINE 0922780380 อีกด้วย


ถึงแม้ว่าคนในชุมชนส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ที่อาจจะรู้สึกว่าการนำความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ตัวเองเป็นเรื่องยาก แต่ด้วยความมุ่งมั้นทั้งจากศูนย์ดิจิทัลชุมชนวัดบ้านคู และความต้องการที่จะเรียนรู้ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกปัจจุบัน ของคนในชุมชน ก็สามารถช่วยผลักดันให้ให้ประสบความสำเร็จได้

ศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนบ้านวัดคู www.facebook.com/ictbanwatkhu
Line 0982849297





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศูนย์ดิจิทัลชุมชน มัสยิดตาราม

ศูนย์ดิจิทัลชุมชนเฉลิมพระเกียรติวัดโพธิการาม

ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนอำเภอแม่ลาน้อย